3D Printing ไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เทคโนโลยีล่าสุดกำลังจะปฏิวัติ และเปลี่ยนแปลงโลกของการผลิต ที่ผ่านมา 3D Printing ในมุมมองของหลายอุตสาหกรรมยังเป็นเรื่องไกลตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของราคาที่สูงเกินไปและความเร็วในการผลิตที่ต่ำเกินไป ทำให้ในช่วงที่ผ่านมา 3D Printer ถูกใช้เพียงในการสร้างต้นแบบ (Prototyping) และใช้ในบริษัทที่มีทุนหนาหรือในอุตสาหกรรมบางประเภทที่มีมูลค่าสูงเท่านั้นเช่น ชิ้นส่วนอากาศยาน หรือเครื่องมือแพทย์ แต่อีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ 3D printer จะเป็นหัวใจของกระบวนการผลิตในหลายๆอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นชิ้นส่วนอากาศยาน, ชิ้นส่วนยานยนต์, ชิ้นส่วนเครื่องจักร, เครื่องมือแพทย์และชิ้นส่วนอุปกรณ์อิเล็กทรอนิคส์ กระบวนการผลิตที่เราคุ้นเคยทุกวันนี้จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป และเราไม่ได้พูดถึงพลาสติก แต่เรากำลังหมายถึงชิ้นส่วนที่ทำจากโลหะ
Desktop Metal กำลังเข้ามาปฎิวัติวงการ Metal 3D Printer โดยนำเสนอเครื่องที่ถูกกว่าในตลาด 10 เท่าและสามารถผลิตชิ้นงานได้เร็วกว่า 100 เท่า เพียงพอที่จะเข้ามาเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตให้กับหลายๆอุตสาหกรรมและนี่คือ Metal 3D Printer เครื่องแรกของโลกสำหรับ Mass Production
Who is Desktop Metal?
Desktop Metal คือบริษัท Start up ที่มีจุดประสงค์ที่จะทำMetal 3D Printer ในราคาที่เข้าถึงได้และสามารถนำไปใช้ผลิตได้จริง ปัจจุบัน Desktop Metal มีเม็ดเงินลงทุนมหาศาลจำนวน 212 ล้านเหรียญสหรัฐจากบริษัทยักษ์ใหญ่ ไม่ว่าจะเป็น Google Venture, BMW, GE, NEA, KPCB และ LUX เป็นต้น และเป็นที่รวบรวมของหัวกะทิในวงการ 3D Printing ปัจจุบันมี Engineer กว่า 100 คนจากหลากหลายสาขาทั้งวิศวกรรมการผลิตสมัยใหม่ (Advanced Manufacturing), Material Science, โลหะวิทยา (Metallurgy) ,กลุ่ม Engineering และกลุ่ม Software โดยในจำนวนนี้มี PhD 14 รวมถึง MIT Professor 4 คน และเพียงภายในระยะเวลา 2 ปีเท่านั้น Desktop Metal ถูกจัดให้เป็น Unicorn ตัวใหม่ของโลก
โดยปัจจุบันมีมูลค่าบริษัทมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐ มีสิทธิบัตรที่กำลังยื่นจดเกือบ 200 รายการและได้รับการขนานนามจากสื่อต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นเป็น 1 ในบริษัทที่ถูกจับตามองที่สุดแห่งปี, 1 ในบริษัทที่ฉลาดที่สุดในโลกและ 1 ในบริษัทที่มีนวัตกรรมที่สำคัญที่สุดแห่งปี
What is DM offering to the market?
“Introducing two systems covering the full product lifecycle -- from prototyping to mass production”
Desktop metal กำลังจะปฏิวัติกระบวนการผลิตโลหะโดยเสนอ 3D Printer 2 รุ่นที่ครอบคลุมกระบวนการผลิตทั้งหมด ตั้งแต่การผลิตต้นแบบ Prototyping จนถึงการผลิต Mass production ที่ชิ้นงานทุกชิ้นได้คุณภาพสูงและมาพร้อมกับต้นทุนต่ำ ความเร็วในการผลิตสูงและมีความปลอดภัยในการใช้งาน
Studio SystemTM:ถูกออกแบบมาสำหรับการผลิตต้นแบบ (Prototyping) หรือการผลิตในปริมาณต่ำ (Low volume production) หรือการผลิตเพื่อทดแทน (Replacement and spare parts) ตลอดจนมีราคาที่ถูกกว่าเทคโนโลยีการพิมพ์โลหะสามมิติแบบ Laser-based ในปัจจุบันถึง 10 เท่า
End-to-end metal 3D printing
เครื่องพิมพ์สามมิติวัสดุโลหะ แบบครบวงครStudio Syetem สามารถตอบโจทย์เรื่องการใช้งาน รวมถึงราคาเครื่องที่ประหยัด การใช้งานที่ง่ายขึ้นสำหรับทีมนักออกแบบและทีมวิศวกรรม
Studio System ใช้เทคโนโลยีการพิมพ์ที่เรียกว่า BMD (Bound Metal Deposition) โดยใช้วัสดุที่ใช้กับเครื่องมีลักษณะเป็นเส้นโลหะ โดยทั่วไปกระบวนการทำงานคล้ายกับระบบ Fused Deposition Modeling หรือที่เรียกกันว่าระบบ FDM ที่ค่อนข้างมีความปลอดภัยสูง คือการละลายวัสดุและฉีดวัสดุโลหะออกมาทีละชั้น หมดกังวลกับการใช้เครื่องพิมพ์สามมิติแบบโลหะในออฟฟิศนอกจากนี้Studio System ยังออกแบบซอฟต์แวร์โดยใช้ระบบ cloud รองรับ เพื่อง่ายต่อการนำไฟล์ CAD มาปริ๊นชิ้นงาน และการนำระบบ Cloud มารองรับทำให้วิศวกรเลือกใช้งานจากดิจิตอลไฟล์มาพิมพ์ชิ้นงานได้โดยตรง ไม่ต้องผ่านอุปกรณ์เสริมหรือซอฟต์แวร์กลาง ต้องการเพียงการเชื่อมต่อจากอินเตอร์เน็ตเท่านั้น
ProductionSystemTM:ถูกออกแบบมาสำหรับการผลิต Mass production โดยมีความเร็วกว่าเทคโนโลยีการพิมพ์โลหะ 3 มิติแบบ Laser-based ในปัจจุบันถึง 100 เท่า
100x faster
การพัฒนากระบวนการผลิต โดยใช้เทคนิคการพิมพ์แบบ Single Pass Jetting (SPJ) ด้วยความเร็ว 8200 cm3ต่อชั่วโมง หรือพิมพ์ได้เร็วกว่า 100 เท่าของเครื่องพิมพ์ชนิดเลเซอร์ การผลิตด้วยเครื่อง Production System จะช่วยลดขั้นตอนการผลิตให้สั้นลง โดยเฉพาะขั้นตอนการทำ Tooling ซึ่งการผลิตด้วยเครื่อง Production system จะช่วยลดขั้นตอนและระยะเวลาในการผลิตให้สั้นลงอย่างเห็นได้ชัดเพราะสามารถข้ามขั้นตอนการทำ Tooling ได้ ส่งผลให้ผู้ประกอบการส่งสินค้าเข้าสู่ท้องตลาดได้เร็วขึ้น
20x lower cost
ด้วยต้นทุนที่ต่ำกว่าจากการใช้ผงโลหะ MIM, สามารถผลิตปริมาณชิ้นงานได้มากต่อครั้ง, และกระบวนการที่ไม่ยุ่งยากหลังการผลิตเมื่อเทียบกับการผลิตแบบเดิม ทำให้การผลิตด้วยเครื่องระบบ Production System มีราคาต้นทุนต่อชิ้นถูกกว่าถึง 20 เท่า
Studio SystemTM เปิดตัวครั้งแรกในไทยและในภูมิภาคอาเซียน
Intermach 2018 : 16-19 พฤษภาคม 2018 ณ ไบเทคบางนา Hall 101 Booth T2
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม:sales3d@thaisakolgroup.com
