ทำไมต้องเป็น 3D Printer? ประโยชน์ที่จะได้รับจากเทคโนโลยีนี้มีมากมายมหาศาล
Zero Tooling:ทุกวันนี้ในการผลิตชิ้นส่วนยานยนต์เราต้องใช้ tooling จำนวนมากและหลากหลายประเภท ซึ่งแต่ละตัวมีมูลค่าสูงเป็นหลักล้านและใช้เวลาเป็นเดือนในการผลิต
เพราะฉะนั้นเวลารถยนต์จะเปลี่ยน Model ในแต่ละครั้งจึงต้องใช้ต้นทุนและเวลา Metal 3D Printer จะทำให้เราข้ามขั้นตอนการผลิตและการใช้ Tooling เหล่านี้ได้ ผู้ผลิตจะสามารถผลิตชิ้นส่วนในแบบอื่นๆ
โดยเปลี่ยนแค่เพียง drawing ในขณะที่ยังสามารถใช้เครื่องจักรและอุปกรณ์ตัวเดิม ซึ่งจุดนี้จะนำไปสู่การลดต้นทุนมหาศาล
No economies of scale:การใช้กระบวนการผลิตในปัจจุบันไม่ว่าจะเป็น casting, stamping, injection molding
จำเป็นจะต้องมีปริมาณการผลิตที่สูงพอเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าในการลงทุน แต่ระบบการผลิตกำลังจะถูกท้าทายจาก
Metal 3D Printer จากการผลิตเยอะเพื่อให้ต้นทุนต่ำ กำลังจะกลายเป็น ผลิตเท่าไหร่ก็ได้ในต้นทุนที่เท่ากันทุกชิ้น
Parts and weight reduction: Metal 3D Printer สามารถช่วยลดจำนวนชิ้นส่วนที่ผลิตได้ การผลิตชิ้นส่วน 1 ตัวจาก 3D Printer
สามารถทดแทนชิ้นส่วนที่ผลิตจากกระบวนการผลิตปัจจุบันได้เป็นหลักสิบหรือหลักร้อย เพราะชิ้นส่วนจะสามารถประกอบกันในตัวได้ในกระบวนการ Print (Consolidation of assemblies)
ยกตัวอย่างเช่นชิ้นส่วน private jet ที่ซับซ้อนสามารถลดจำนวนชิ้นส่วนประกอบได้จากร้อยๆ ชิ้นเหลือแค่เพียงหลักสิบชิ้น สิ่งที่เป็นผลดีตามมาก็คือน้ำหนักของชิ้นส่วนลดลง หมายความว่า
Supporting parts ก็ไม่จำเป็นต้องมีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักมาก การลดน้ำหนักก็เกิดขึ้นอีกส่งผลเป็นลูกโซ่ ซึ่งท้ายสุดจะทำให้น้ำหนักของยานพาหนะทั้งหมดลดลง
นอกจากนี้ Metal 3D Printer ยังสามารถสร้าง Lattice structure ซึ่งช่วยลดการใช้ Material อย่างน้อย 30% และนำไปสู่การลดน้ำหนักของชิ้นส่วนเช่นกัน
จุดนี้เป็นหัวใจสำคัญอย่างมากในอุตสาหกรรมยานยนต์ปัจจุบันที่ต้องการลดน้ำหนักยานพาหนะ ลดการใช้เชื้อเพลิง และลดการปล่อยมลพิษ
Freedom of design:Metal 3D Printer จะเปิดโอกาสให้อุตสาหกรรมสามารถผลิตชิ้นส่วนที่ยากและมีความซับซ้อนที่ไม่สามารถผลิตได้
โดยการขึ้นรูปหรือโดยการกัดชิ้นงานหรือโดยกระบวนการผลิตในปัจจุบัน ยกตัวอย่างเช่นการออกแบบ Conformal cooling channels ใน Mold inserts ที่วิธีการผลิตอื่นทำไม่ได้
ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้ Mold inserts ได้ดียิ่งขึ้น Metal 3D Printer จะเป็นตัวขับเคลื่อนให้อุตสาหกรรมสามารถพัฒนาด้าน R&D ได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
และนี่จะเป็นการเปลี่ยนแปลงไม่เพียงเฉพาะกระบวนการผลิต แต่จะเปลี่ยนแปลงกระบวนการคิดและจินตนาการของนักออกแบบด้วย
Warehouse in the cloud: Metal 3D Printer ทำให้คุณผลิต Spare parts
ได้รวดเร็วขึ้นและสามารถลด Inventory ได้ในเวลาเดียวกัน ถ้าคุณเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ต้องทำงานกับ Spare parts เป็นแสนๆ ชิ้นและต้องขนส่ง parts เหล่านี้ไปยังตัวแทนทั่วโลกเพื่อเก็บเป็น Stock
เพื่อส่งให้ถึงมือลูกค้าให้ทันท่วงที Metal 3D Printer กำลังจะมาเปลี่ยนวิธีการทำงานของคุณอย่างสิ้นเชิง ต่อจากนี้คุณจะสามารถย้าย Warehouse ทั้งหมดไปอยู่ใน Online cloud ได้ ที่ซึ่งตัวแทนทุกคนสามารถ
Download parts ที่ต้องการผลิตและ print ได้ทันทีเมื่อลูกค้าสั่ง (On-demand print)